Русские видео

Сейчас в тренде

Иностранные видео


Скачать с ютуб ฝรั่ง Expat เวียดนามสุดเซ็ง! ทยอยอพยพมาอยู่ไทยแทน หลังรัฐบาลเวียดนามอำนวยความไม่สะดวก в хорошем качестве

ฝรั่ง Expat เวียดนามสุดเซ็ง! ทยอยอพยพมาอยู่ไทยแทน หลังรัฐบาลเวียดนามอำนวยความไม่สะดวก 1 год назад


Если кнопки скачивания не загрузились НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru



ฝรั่ง Expat เวียดนามสุดเซ็ง! ทยอยอพยพมาอยู่ไทยแทน หลังรัฐบาลเวียดนามอำนวยความไม่สะดวก

ในปี 2022 การท่องเที่ยวเวียดนาม มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2021 ที่ผ่านมา ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2022 มีนักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 596,919 คน ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม ใน 11 เดือนแรก ที่ 2,732,948 คน ราวครึ่งหนึ่ง เป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปเอเชีย ตามมาด้วยยุโรป อเมริกา โอเชียเนียน และแอฟริกา ส่วนประเทศที่นิยมมาท่องเที่ยวในเวียดนามมากที่สุดใน 11 เดือนแรกของปี ก็คือ เกาหลีใต้ ที่ 567,678 คน อันดับ 2 คือสหรัฐอเมริกา 163,190 คน โดยมีไทยอยู่ในอันดับ 3 ที่ 113,799 คน อันดับ 4 ก็คือกัมพูชา 112,029 คน ส่วนอันดับ 5 คือญี่ปุ่น 100,646 คน ถือว่าเวียดนามกำลังไปได้ดี กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ที่กำลังสร้างเม็ดเงินให้กับคนที่นั่น นอกเหนือไปจากเงินลงทุนจากต่างประเทศในภาคอุตสาหกรรม และแม้ว่าตัวเลขล่าสุด จะสะท้อนให้เห็นความสามารถที่เพิ่มขึ้น ในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน แต่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเวียดนาม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Expat กลับลังเลที่จะอาศัยอยู่ในประเทศแห่งนี้อีกต่อไป จากนโยบายล่าสุดของรัฐบาลเวียดนาม ในการลดระยะเวลาการต่อวีซ่า ให้เหลือเพียง 30 วันเท่านั้น โดยเป้าหมายปลายทางใหม่ของ expat ส่วนใหญ่ ก็คือประเทศไทย เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดย Youtuber อีกคนหนึ่งที่ชื่อ คริส ซึ่งเขาเป็นชาวอเมริกัน ที่มีภรรยาเป็นชาวเวียดนาม และมีความหลงไหล และรักประเทศเวียดนามเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะถูกมองจาก expat ต่างชาติส่วนใหญ่ว่า เป็นคนที่ทำให้เวียดนาม เสียภาพลักษณ์หรือชื่อเสียง จากการวิจารณ์ประเทศเวียดนาม อย่างตรงไปตรงมาจนเกินไป และเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน ในขณะที่ทำการไลฟ์สด เขาถูกไล่ออกจากร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งหนึ่ง หลังจากที่เพิ่งเข้าไปนั่งเก้าอี้ ได้ไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำ ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้กับทั้งแขกของร้าน และพนักงานชาวเวียดนามเอง ซึ่งคนที่เดินปรี่เข้ามาไล่ หรือเกือบจะชกหน้าเขาไปแล้ว คาดว่าเป็นชาวอังกฤษ จากสำเนียงภาษา ที่มีอายุราว 70-75 ปี แต่ด้วยความสูงกว่า 6 ฟุต 3 นิ้ว และเป็นผู้สูงวัย ทำให้คริส เลือกที่จะเดินออกมาแบบเงียบๆ พร้อมความมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้น เขาเริ่มประมวลเหตุการณ์จากสิ่งต่างๆที่เพิ่งประสบไป พร้อมสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเพราะชาวต่างชาติคนดังกล่าว อาจจะไม่พอใจกับที่เขามักจะวิพากย์วิจารณ์สิ่งต่างๆเกี่ยวกับเวียดนาม อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเขาเองก็ทราบว่า expat ต่างชาติ ที่รวมกลุ่มบนเพจโซเเซียลมีเดียเพจหนึ่ง เคยนำเรื่องราวของเขามาตีแผ่ และมองว่า เขามักจะใช้ภาพผู้หญิงเวียดนาม มาทำเป็นหน้าปกของคลิปบน Youtube และหลังจากเหตุการณ์ระทึกใจดังกล่าว ก็มี Youtuber ดาวดังชาวอเมริกันอีกคนหนึ่ง ที่ใช้ชื่อช่องว่า Phuc Map ซึ่งมีคนติดตามกว่า 4 แสนคน ได้นำเรื่องราวแง่ลบของคริส มาพูดบนโซเซียลมีเดียแห่งหนึ่ง ซึ่งคริส ก็ได้ทำคลิปออกมาโต้ตอบไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา เรากำลังจะสื่อว่า แม้ว่าคริสจะรักทุกอย่างที่เป็นเวียดนาม มีภรรยาเป็นชาวเวียดนาม แต่เขาก็มักจะพูดอะไรออกมาตรงๆ ตามความรู้สึก ซึ่งอาจจะเป็นความรู้สึกจากใจ หรือบางเรื่อง อาจจะเกิดจากความไม่รู้ หรือเข้าใจผิดไป ก็เป็นไปได้ ในขณะเดียวกัน ตัวของเขาเอง ก็ไม่ได้ปลื้มเมืองไทยเท่าใดนัก จากหลายๆคลิป ที่เขามักจะทำการเปรียบเทียบเวียดนามกับเมืองไทย นั่นทำให้คลิปนี้ของเขา จึงน่าสนใจไม่น้อย เพราะน่าจะสะท้อนความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นในชุมชน expat เวียดนามล่าสุด ในเรื่องกรณีของการไม่พอใจ ต่อนโยบายวีซ่าล่าสุดของรัฐบาลเวียดนาม และเตรียมย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในเมืองไทยแทน ซึ่งปัญหาเรื่องวีซ่า เป็น 1 ใน 5 สาเหตุ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่หวนกลับมาเที่ยวที่นี่ซ้ำอีก ซึ่งเราได้เคยนำเสนอไปแล้วในคลิปก่อนๆ คริส ได้ตั้งชื่อคลิปนี้ว่า คนกำลังย้ายออกจากเวียดนามไปยังประเทศไหน? คนในที่นี่ เขาบอกว่าส่วนใหญ่ หมายถึง expat ที่อาศํยอยู่ในเวียดนามนั่นเอง คริสเปิดคลิปด้วยการบอกว่า ตอนนี้ผู้คนกำลังจะย้ายออกจากเวียดนามไปยังเมืองไทยแล้ว เขาบอกว่าใน 2 เดือนหลังมานี้ เริ่มมีคนทยอยย้ายไปอาศํยอยู่ในประเทศไทยมากขึ้น เพราะคนพวกนี้เริ่มเหนื่อยกับเรื่องการขอต่อวีซ่าในเวียดนาม ทุก 30 วัน ซึ่งเขาบอกว่า มันก็ฟังดูสมเหตุสมผลดี และไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไร มันชึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ในเมืองไหนด้วย ซึ่งถ้าคุณอยู่นอกเมืองไซ่ง่อน หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โฮจิมินห์ซิตี้ การต่อวีซ่าอาจจะยากลำบากซะหน่อย หรืออาจจะใช้เวลาทำเรื่องนานขึ้นในบางเมือง แม้แต่คนที่อาศัยอยู่ในไซ่ง่อนเอง ที่ผมรู้จักก็ 10 กว่าคนแล้ว ยังรู้สึกเบื่อกับเรื่องวีซ่า และกำลังทยอยย้าย หรือเตรียมที่จะย้ายไปอยู่ในเมืองไทยกันแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่อายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งพวกเขาสามารถของ retirement visa หรือวีซ่าเกษียณอายุ ซึ่งคุณจะต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย 21,000 เหรียญสหรัฐ แต่เขามองว่ามันมีช่องโหว่ที่จะจัดการเรื่องนี้ได้โดยใช้เงินแค่ 500 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ซึ่งเขามองว่าเวียดนามควรจะมีวีซ่าพวกนี้ แต่เขาหวังว่าหลังปีใหม่ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น หรือก็อาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เขาบอกว่า เขาเคยพูดมาตลอดว่า รัฐบาลเวียดนามสนใจแต่เรื่องภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งจะใช้เป็นฐานในการนำประเทศไปสู่การพัฒนา ซึ่งตอนนี้ภาคการผลิตเหล่านี้ ก็กำลังประสบปัญหา โดยเฉพาะจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สภาพโรงงานย่ำแย่ลงไปมาก ยิ่งทำให้รัฐบาลสนใจไปที่ปัญหาเหล่านี้มากขึ้น การท่องเที่ยวจึงเหมือนกำลังถูกละเลย แต่ถ้าดูจากสัดส่วนการท่องเที่ยวต่อ GDP ของประเทศ ก็เข้าใจได้ว่าทำไมการท่องเที่ยวจึงไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลเท่าที่ควร ที่มา:    • People are leaving Vietnam for........!?  

Comments