Русские видео

Сейчас в тренде

Иностранные видео


Скачать с ютуб ผญาอิสาน ธรรมลีลา ปฐกกถาธรรม พระอาจารย์ สมภพ โชติปัญโญ จ.สกลนคร в хорошем качестве

ผญาอิสาน ธรรมลีลา ปฐกกถาธรรม พระอาจารย์ สมภพ โชติปัญโญ จ.สกลนคร 1 год назад


Если кнопки скачивания не загрузились НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru



ผญาอิสาน ธรรมลีลา ปฐกกถาธรรม พระอาจารย์ สมภพ โชติปัญโญ จ.สกลนคร

ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อสมภพ โชติปัญโญ วัดไตรสิกขาทลามลตาราม อ.คำตากล้า จ.สกลนคร ◎ ชาติภูมิ หลวงพ่อสมภพ หรือ พระอาจารย์สมภพ โชติปญฺโญ นามเดิมชื่อ สมภพ ยอดหอ เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖) ณ บ้านแพด ตําบลแพด อําเภอคําตากล้า จังหวัดสกลนคร บิดาชื่อ นายจูม ยอดหอ และมารดาชื่อ นางสอน ยอดหอ มีพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกัน ทั้งหมด ๑๒ คน ท่าน เป็นบุตรคนที่ ๕ ในจํานวน ๑๒ คน ครอบครัวของท่านมีต้นกําเนิดที่บ้านนายาง อําเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อ ครอบครัวประสบกับภาวการณ์หาเลี้ยงชีพที่ขัดสน บิดาและมารดาของท่านจึงได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่บ้านวังชมพู ตําบลแพด อําเภอคําตากล้า จังหวัดสกลนคร ◎ ปฐมวัย ครั้นเมื่อเติบโตถึงเกณฑ์เข้าโรงเรียน ก็ได้รับการศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๔ ตามกฎหมายการศึกษาภาคบังคับในขณะนั้น เมื่อจบการศึกษาแล้ว ก็ได้ทํางานช่วยบิดามารดา แต่บิดาเห็นว่าอยากให้ลูกตัวเองได้บวชเพื่อศึกษาเล่าเรียน จึงนําไป ถวายหลวงปู่เพื่อฝากเป็นลูกศิษย์วัด จากนั้นจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมคําสอน ณ วัดสระแก้ววารีราม อําเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร โดยมี พระครูคัมภีร์ปัญญาคม เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อสามเณรสมภพ ยอดหอ ได้ศึกษาหลักคําสอน และฝึกหัดเทศน์ไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการศึกษาเกี่ยวกับท่องบทสวดมนต์ เจ็ดตํานาน สิบสองตํานาน และ ยังศึกษาเล่าเรียนการปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อบรรพชาเป็นสามเณรได้ ๔ ปี ท่านก็ได้ลาสิกขาบทเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๙ ขณะนั้น อายุ ๑๗ ปี เพื่อไปประกอบอาชีพโดยได้ไปทํางานยังต่างประเทศ เช่น แอฟริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง รวมประมาณ ๑๓ ประเทศ นายสมภพ ยอดหอ รับผิดชอบเป็นหัวหน้ารับเหมาก่อสร้างถนนและสนามบิน และนายสมภพ ยอดหอ ยังได้ทําหน้าที่รับผิดชอบเป็นทนายความจําเป็นให้กับคนไทยที่ไปทํางานยังต่างประเทศ เมื่อเพื่อนสมาชิกที่เดือดร้อน ท่านก็จะคอย ช่วยเหลือเจือจุนเพื่อนอยู่ตลอดเวลา จนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงานด้วยกัน เมื่อทํางานอยู่ต่างแดน ก็มีโอกาสได้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ด้วย จนมีความรู้ความสามารถ กล่าวกันว่า ท่านจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบาทหลวง แต่เมื่อท่านจะเข้าพิธีล้างบาปเพื่อเป็นบาทหลวง ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นคือ น้ำที่จะใช้ในการประกอบพิธีได้เดือดแห้ง ถึงสามครั้ง ทําให้ท่านหวลคิดพิจารณาถึงเหตุการณ์ในคราวครั้งนี้ จนทําให้ฝันเห็นพ่อแม่ของตน ในฝันนั้นบอกว่า พ่อแม่ของท่านมาหาแล้วได้นําผ้าไตรสีเหลือง อันเป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์ มามอบให้แก่ท่าน เมื่อท่านตื่นขึ้นมา ทําให้ท่านได้พิจารณาโดยถ่องแท้ว่า การจะได้รับการแต่งตั้งเป็นบาทหลวงในคราวครั้งนี้เป็นหนทางที่ไม่ใช่และไม่เหมาะกับตนเอง จึงเริ่มหันชีวิตกลับเข้า มาสู่พระพุทธศาสนาอีกครั้ง ◎ อุปสมบท เมื่อมีอายุ ๓๖ ปี ก็เกิดความคิดขึ้นว่า การที่เราลงทุนไปสร้างวัดจะให้ได้ประโยชน์มากเราจะต้องบวช จึงได้เดินทางกลับมาสู่มาตุภูมิแล้วก็ไปอุปสมบทที่วัดเนินพระเนาว์ ตําบลโพธิ์ชัย อําเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ในปีพุทธศักราช ๒๕๒๘ โดยมี พระครูภาวนาปัญญาภรณ์ (หลวงปู่บุญส่ง โกวิโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า “โชติปญฺโญ” แปลว่า “ผู้มีปัญญาอันโชติช่วง ประดุจดวงประทีป” หลังจากอุปสมบท ก็ได้เข้าปฏิบัติกรรมฐานเป็นเวลา ๑ ปี โดยไม่พูดคุยกับใคร นั่งสมาธิปฏิบัติกรรมฐานตลอดเวลา เดิมแรกท่านตั้งใจว่าจะปฏิบัติอย่างน้อย ๓ ปี แต่ก็ไม่ได้ตามความประสงค์ พอครบปี พระอุปัชฌาย์ก็ได้เรียกไปแปลธรรมะภาคภาษาอังกฤษและ เริ่มเทศน์ให้ชาวต่างชาติฟัง หลังจากนั้นก็ได้รับเป็นภารธุระเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กับพระอุปัชฌาย์ ในสถานที่ต่างๆ กลายเป็นพระนักเทศน์ผู้ทรงความรู้ เป็นที่พึ่งแก่ญาติธรรมผู้ใฝ่ในการปฏิบัติธรรมเป็นลําดับสืบต่อมา เมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยพ้นผ่านไป พระอาจารย์สมภพ โชติปญฺโญ จึงได้ขอลาพระอุปัชฌาย์ มาอยู่จําพรรษายังบ้านเกิดของตน ◎ การจำพรรษา พรรษาที่ ๑ ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ จำพรรษาที่วัดเนินพระเนาว์ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย พรรษาที่ ๒-๑๘ พ.ศ. ๒๕๒๙ – ๒๕๔๐ จำพรรษาที่วัดนิพเพธพลาราม อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร พรรษาที่ ๑๙-ปัจจุบัน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๑ – ปัจจุบัน จำพรรษา ณ วัดไตรสิกขาทลามลตาราม อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร พระอาจารย์สมภพ โชติปญฺโญ หลังจากได้อุปสมบทแล้วได้ทดแทนพระคุณของบิดาด้วยการสอนวิปัสสนากรรมฐาน ให้แก่บิดา โดยบิดาของท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ คือ หลวงพ่อจูม สุจิตโต ซึ่งหลวงพ่อจูม ก็ได้ทําตามคําแนะนําของพระอาจารย์สมภพ โชติปญฺโญ ด้วยการดําเนินชีวิตในบั้นปลายที่พอเพียงกับสมณวิสัย เป็นคนพูดน้อย สันโดษ ตั้งใจบําเพ็ญกรรมฐานอย่างมุ่งมั่น จนถึงกระทั่งวันมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่วัดนิพเพธพลาราม ตําบลแพด อําเภอคําตากล้า จังหวัดสกลนคร โดยอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของพระอาจารย์สมภพ โชติปญฺโญ ซึ่งเป็นทั้งประธานสงฆ์และบุตรชาย ส่วนโยมมารดา คือ แม่สอน ยอดหอ ก็ได้ดําเนินชีวิตเฉกเช่นสามีและบุตรชายมีการทําบุญตักบาตร รักษาศีลอุโบสถ และปฏิบัติธรรม ตามสมควรแก่โอกาส นับแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ~▪︎¤🌹🌹❤️🙏🙇‍♂️🙏🙇‍♂️🙏❤️🌹🌹¤▪︎~

Comments