Русские видео

Сейчас в тренде

Иностранные видео


Скачать с ютуб ยายวัย 66 ร่ำไห้ ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนที่ดิน 50 ล้าน แถมตุ๋นเงินจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว в хорошем качестве

ยายวัย 66 ร่ำไห้ ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนที่ดิน 50 ล้าน แถมตุ๋นเงินจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว Трансляция закончилась 3 года назад


Если кнопки скачивания не загрузились НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru



ยายวัย 66 ร่ำไห้ ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนที่ดิน 50 ล้าน แถมตุ๋นเงินจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว

ยายวัย 66 ร่ำไห้แทบขาดใจ ขายที่ดินครั้งแรกในชีวิต เป็นที่ดินผืนงามมูลค่า 50 ล้านบาท เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกซื้อ เอาที่ดินไปฟรีๆ ไม่จ่ายเงินสักบาท แถมยังใช้อุบายหลอกยายให้โอนเงินจนสิ้นเนื้อประดาตัว สุดท้ายยายจะเอาที่ดินกลับคืนมาได้หรือไม่ วันนี้ (31 พ.ค.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ได้เชิญ นางลัดดา สงวนบุญ ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกซื้อที่ดิน พร้อมด้วย บอย ลูกชายคนโต , เจี๊ยบ ลูกสะใภ้ และ รัชพล ศิริสาคร ทนายความ มาร่วมพูดคุยกัน ผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า คนกลุ่มนี้เข้ามาติดต่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เริ่มแรก เขาเข้ามาตีสนิทก่อน โดยมีการเข้ามาติดต่อพูดคุยว่าจะมาขอซื้อที่ดิน มีการซื้อของมาฝาก โดยที่ก็ไม่รู้ว่าเขารู้มาจากไหนว่ามีที่ดินจะขาย โดยเขาอ้างตัวว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ไม่ได้มีการโชว์บัตรประชาชนหรือหลักฐานอะไร ตนเองก็ไม่ได้เอะใจเพราะเขาบอกเป็นตัวแทนของบริษัท ก็มาเจรจาเรื่องราคากัน โดยเขาขอซื้อที่ดินจำนวน 5 ไร่จากตน โดยตกลงซื้อขายกันเป็นเงินจำนวน 40 ล้านบาท โดยคนกลุ่มนี้ได้จ่ายเป็นค่าที่ดินให้ตนเป็นเช็คธนาคาร แต่ต่อมาก่อนถึงวันขึ้นเงินกลุ่มคนกลุ่มนี้ได้มาขอเปลี่ยนเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินแทน ต่อมา วันที่ 1 มี.ค. ตนได้เดินทางไปทำการโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางเขน ทางคนกลุ่มนี้ก็ได้เจรจาขอซื้อที่ดินเพิ่มอีก อ้างเพื่อทำเป็นทางสาธารณะเข้าออกหมู่บ้าน ทางตนก็ปฏิเสธไปเพราะอยากเก็บไว้ทำสวน เขาเลยขอที่ดินไปทำเป็นรูปร่างให้บริษัทดูก่อน และจะมอบค่าเสียเวลาให้ 10 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท และหลังโอนเสร็จจะทำการโอนที่ดินคืนให้ เมื่อทำการโอนที่ดินสำเร็จ กลับได้ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ได้มาเป็นเงินจำนวน 60 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถขึ้นเงินไม่ได้ต้องรอ 7-10 วัน ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้อ้างกับตนว่า ในตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น ได้สั่งจ่ายเงินเกินไป 10 ล้านบาท ให้โอนเงินคืนไปให้ แต่ทางตนเองไม่มีเงินขนาดนั้น มีเงินแค่ 2.5 แสน จึงโอนให้ไปก่อน แต่เมื่อผู้เสียหายนำตั๋วเงินไปขึ้นเงินกลับพบว่า ตั๋วเงินที่มิจฉาชีพใช้เป็นตั๋วเงินปลอมที่ถูกยกเลิกไปแล้ว จากนั้นจึงรีบย้อนกลับมาตรวจสอบที่สำนักงานที่ดิน พบว่า ที่ดิน 4 แปลงก็ถูกโอนออกไปแล้ว โดยตอนที่ทำสัญญาซื้อขาย เป็นชื่อของคนๆ หนึ่ง แต่พอโอนแล้วกลับเป็นชื่อของคนอื่น ซึ่งตนเองไม่รู้เลยว่าเป็นชื่อของใคร และ ในเอกสารระบุว่าตนเองได้รับเช็คเงินสดจากการขายที่ดินจำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 3 ล้านบาท ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่ได้รับเช็คเลยสักฉบับ ทางรายการ ถกไม่เถียง จึงได้ติดต่อไปยัง คุณชเนวิน โพธิ์ราม นักวิชาการที่ดินปฎิบัติการ สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางเขน เพื่อสอบถามเรื่องเช็คที่ปรากฎขึ้นในเอกสาร โดยทาง คุณชเนวิน เล่าว่า ในวันที่ทำการโอนที่ดิน ได้มีการสอบถามทางกลุ่มผู้เสียหายแล้วว่าได้รับเงินหรือยังก่อนที่จะเซ็นเอกสาร และในตอนที่เซ็นเอกสารก็มีลูกและญาติอยู่ร่วมด้วย ส่วนเรื่องเช็ค มีเช็ค 3 ฉบับ ฉบับละ 3 ล้านบาท จำนวน 2 ฉบับ และ ฉบับละ 1.3 ล้านบาท อีก 1 ฉบับ สั่งจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คของธนาคารกสิกรไทย ระบุชื่อคุณลัดดา จำนวน 2 ฉบับ รวมเป็นเงิน 6 ล้านบาท ส่วนอีกฉบับ ที่มูลค่า 1.3 ล้านบาท สั่งจ่ายกระทรวงการคลังเป็นค่าธรรมเนียม แต่ถ้าทางผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ได้รับเงิน แนะนำว่าคงต้องใช้สิทธิทางศาล ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียน เพื่อให้ชื่อกลับมาเป็นของผู้เสียหายเหมือนเดิม สำหรับเงินนอกเหนือจากยอดเงิน 6 ล้านบาท เขาตกลงกันว่าจะจ่ายเป็นเงินสด แต่ตนเองไม่ได้ดูตรงนั้นว่ามีการจ่ายจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องตั๋วสัญญา เพิ่งจะมาเห็นในภายหลัง ตอนที่มายื่นขอใหม่ หลังจากที่ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ทั้งนี้ ทางผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับเช็คเลยสักฉบับ และไม่เคยเห็นด้วย และก็ได้มีการไปแจ้งความเกี่ยวกับตั๋วเงินแล้ว แต่ได้แค่ลงบันทึกประจำวัน แต่พอจะไปแจ้งความอีกครั้ง ตำรวจแนะนำว่าให้คิดให้ดีก่อน เพราะตั๋วเงินมีอายุ 180 วัน แต่ตอนที่ไปแจ้งความ เพิ่ง 90 วันเอง ซึ่งอีกฝ่ายอาจฟ้องกลับได้ ทางตำรวจก็แนะนำให้ปรึกษาทนายอาสา นอกจากนี้ ทางรายการยังได้สอบถามเรื่องคดีไปยัง พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม โดย พ.ต.อ.อำนาจ ให้คำแนะนำว่า ในส่วนของโรงพัก ทางเรามีทนายอาสาอยู่ที่หน้าห้องอยู่แล้ว ซึ่งในตอนแรกที่ผู้เสียหายมาแจ้งความ พบกับ สารวัตรไพบูลย์ ก็ได้แนะนำให้ไปปรึกษากับทนายอาสาก่อน ว่าต้องฟ้องซ้ำหรือไม่ เพราะมีการฟ้องแพ่งแล้ว จะมาแจ้งความคดีอาญาซ้ำ บางอย่างถ้าเป็นคดีแพ่ง เราจะเตือนก่อนว่านี่เป็นคดีแพ่งแล้วจึงรับแจ้ง แต่ถ้าเป็นคดีอาญาเราสามารถรับแจ้งได้เลยในทันทีครับ แต่ถ้าทางผู้เสียหายยืนยันที่จะแจ้งความ ทางตำรวจก็ยินดีรับแจ้งความ ซึ่งถ้าเป็นไปตามข่าวที่เสนอออกมา สามารถดำเนินคดีได้เลยในข้อหาฉ้อโกง ฟากทนายรัชพล ศิริสาคร กล่าวถึงเคสนี้ว่า คนร้ายมีลักษณะโอนเงินให้เหยื่อเกินจากจำนวนที่ตกลงกัน แล้วให้เหยื่อโอนเป็นเงินทอนคืนมา สุดท้ายไม่ได้เงินจริง เข้าข่ายหลอกลวง ส่วนเรื่องเช็คที่ถูกระบุในเอกสารการโอนที่ดิน เป็นไปได้ว่าเขาเอาเช็คมาให้เจ้าหน้าที่ดู แล้วงุบงิบไป แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตรวจสอบเข้มงวดอะไร สอบถามแล้วก็จบ โดยทางตัวทนายเองได้มีการไปตรวจสอบเรื่องการโอนที่ดินแล้ว พบว่าตอนนี้ที่ดินยังไม่มีการโอนชื่อไปยังบุคคลที่ 3 ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องดำเนินการเรื่องให้ยุ่งยากขึ้นไปอีก นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติของแก๊งนี้ พบว่ามีประวัติพัวพันคดีฉ้อโกงประชาชน เคยถูกบิ๊กโจ๊ก จับดำเนินคดีมาแล้วเมื่อปี 62 #เรื่องนี้ต้องดู #หลอกขายที่ดิน #50ล้านบาท #ยายลัดดา #ทินโชคกมลกิจ #ทินถกไม่เถียง #ถกไม่เถียงกับทิน #Ch7HD #TERODigital

Comments